"ถ้าถามว่าปฏิจจสมุปบาทคืออะไร
ก็ตอบว่าปฏิจจสมุปบาทคือการแสดงให้ทราบว่า
ทุกข์จะเกิดขึ้นมาอย่างไร
และจะดับลงไปอย่างไรโดยละเอียด
และแสดงให้ทราบว่า
การที่ทุกข์เกิดขึ้นและดับไปนั้น
มีลักษณะเป็นธรรมชาติที่อาศัยกันและกัน"
"รู้เพื่อประโยชน์อะไร เพื่อให้รู้ถูกต้องและให้ดับทุกข์เสียได้
จะดับทุกข์ได้โดยวิธีใด
ก็โดยวิธีที่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของปฏิจจสมุปบาท
คืออย่าให้กระแสปฏิจจสมุปบาทมันเกิดขึ้นมาได้
เพราะว่ามีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา"
"...โดยหลักทั่ว ๆ ไป จะมีได้โดยการปฏิบัติที่ถูกต้อง
คือการมีชีวิตอยู่อย่างถูกต้อง หรือการเป็นอยู่ที่ชอบ
ความเป็นอยู่ที่ชอบนั้นก็คือ
การเป็นอยู่ที่สามารถทำลายอวิชชาเสียได้ด้วยวิชชา
คือการเป็นอยู่ที่ทำลายความโง่เสียได้ด้วยความรู้
หรือถ้าจะสรุปความอีกทีหนึ่งก็เป็นการสรุปความว่า คือ
การมีสติอยู่ตลอดเวลา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสติเมื่อมีอารมณ์มากระทบ
เมื่อเป็นอยู่อย่างนี้ ความโง่เกิดไม่ได้ อวิชชาเกิดไม่ได้
สามารถขจัดอวิชชาออกไปเสียได้ มันเหลืออยู่แต่วิชชาหรือความรู้
นี้แหละคือความเป็นอยู่ชอบ เป็นอยู่ชนิดที่ความทุกข์เกิดไม่ได้
โดยหลักใหญ่ ๆ เรื่องปฏิจจสมุปบาทมันมีอยู่อย่างนี้"
"ขอยืนยันว่าที่ได้พยายามค้นคว้าต่อมาตลอดเวลาหลายสิบปีนี้
ได้พบปฏิจจสมุปบาทในลักษณะอย่างนี้คือ
ปฏิจจสมุปบาทที่อยู่ในขอบเขตที่เราควบคุมได้ ปฏิบัติได้
มีสติถูกต้องป้องกันได้ทันควันในขณะที่อารมณ์มากระทบ
อย่างเดียวที่เป็นเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่มีประโยชน์
ที่เป็น หลักของการปฏิบัติ
ถ้าถามว่าปฏิบัติอย่างไร
ไม่มีคำตอบอย่างอื่นนอกจากว่า
มีสติ เมื่อมีอารมณ์มากระทบ อย่าเผลอสติ
อย่าให้เกิดอวิชชาปรุงสังขาร วิญญาณ นามรูป อายตนะ
ชนิดที่จะไปเป็นทุกข์"
(ที่มา: หนังสือ สาวิกา ฉบับ "ธรรมะ ศิลปะ ละคร ปฏิจจสมุปบาท"
โดยอ้างอิงมาจาก หนังสือชุดลอยปทุม ปฏิจจสมุปบาท โดยท่านพุทธทาสภิกขุ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น