วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พุทธทำนาย 16 ประการ

พุทธทำนายในที่นี้ จะกล่าวถึงเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายพระสุบิน (ความฝัน)ของพระเจ้าปเสนทิโกศล จำนวน 16 ข้อ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงทำนายว่าเหตุการณ์เหล่า นั้นจะเกิดขึ้น ในยุคสมัยที่ศาสนาได้เสื่อมลงซึ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน เนื้อความดังกล่าวปรากฏในอรรถกถาพระไตรปิฎก มหาสุบินชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกายมีเนื้อความดังต่อไปนี้

วันหนึ่งพระเจ้าโกศลมหาราช เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาลในปัจฉิมยามทอดพระเนตรเห็น พระสุบินนิมิตรอันใหญ่หลวง 16 ประการทรงตระหนกพระทัยตื่นพระบรรทม ทรงพระดำริว่าเพราะเราเห็นสุบินนิมิตรเหล่านี้ จักมีอะไรแก่เราบ้างหนอเป็นผู้อันความสะดุ้งต่อมรณภัย คุกคามแล้วทรงประทับเหนือพระแท่นที่ไสยาสน์นั้นแล จนล่วงราตรีกาล

ครั้นรุ่งเช้า พวกพราหมณ์ปุโรหิตเข้าเฝ้ากราบทูลถามว่าข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระองค์บรรทมเป็นสุขหรือพระเจ้าข้า? รับสั่งตอบว่าท่านอาจารย์ทั้งหลาย เราจักมีความสุข ได้อย่างไร เมื่อคืนนี้เวลาใกล้รุ่งเราเห็นสุบินนิมิตร 16 ข้อ ตั้งแต่เห็นสุบินนิมิตรเหล่านั้นแล้วเราถึงความหวาดกลัวเป็นกำลัง เมื่อพวกปุโรหิตกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้าโปรดตรัสเล่าเถิดพระเจ้าข้า พวกข้าพระองค์สดับแล้ว จักทำนายถวายได้จึงตรัสเล่าพระสุบิน ที่ทรงเห็นแล้วให้พวกพราหมณ์ฟัง แล้วตรัสว่าเพราะเหตุเห็นสุบินเหล่านี้ จักมีอะไรแก่เราบ้าง? พวกพราหมณ์พากันสลัดมือ.เมื่อรับสั่งถามว่า เพราะเหตุไรพวกท่านจึงพากันสลัดมือเล่า?พวกพราหมณ์จึงพากันกราบทูลว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้าพระสุบินทั้งหลายร้ายกาจนัก รับสั่งถามว่าพระสุบินเหล่านั้นจักมีผลเป็นประการใด? พวกพราหมณ์จึงพากันกราบทูลว่าจักมีอันตรายใน 3 อย่างเหล่านี้ คือ อันตรายแก่ราชสมบัติ 1 อันตรายคือโรคจะเบียดเบียน 1 อันตรายแก่พระชนม์ 1 อย่างใดอย่างหนึ่ง.รับสั่งถามว่า พอจะแก้ไขได้ หรือแก้ไขไม่ได้ พราหมณ์ทั้งหลายกราบทูลว่าขอเดชะ พระสุบินเหล่านี้ หมดทางแก้ไขเป็นแน่แท้ เพราะร้ายแรงยิ่งนักแต่พวกข้าพระองค์ทั้งหลาย จักกระทำให้พอแก้ไขได้เมื่อพวกหม่อมฉันไม่สามารถเพื่อจะแก้ไขพระสุบินเหล่า นี้ได้แล้วขึ้นชื่อว่าความเป็นผู้สำเร็จการศึกษา จักอำนวยประโยชน์อะไร?รับสั่งถามว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย จักกระทำอย่างไรเล่าถึงจักให้คืนคลายได้ พวกพราหมณ์พากันกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้าพวกข้าพระองค์ต้องบูชายัญด้วยวัตถุอย่างละ 4 ทุกอย่างพระเจ้าข้าพระราชาทรงสะดุ้งพระทัย ตรัสว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้นเราขอมอบชีวิตไว้ในมือของพวกท่านเถิดพวกท่านรีบกระทำความสวัสดี แก่เราเร็วๆ เถิด พวกพราหมณ์พากันร่าเริงยินดีว่าพวกเราต้องได้ทรัพย์มาก จักต้องได้ของเคี้ยวกินมามากๆแล้วพากันกราบทูลปลอบพระราชาว่า ข้าแต่มหาราชเจ้าอย่าได้ทรงวิตกเลยพระเจ้าข้า แล้วพากันออกจากราชนิเวศน์จัดทำหลุมบูชายัญที่นอกพระนคร จับฝูงสัตว์ 4 เท้ามากเหล่ามัดเข้าไว้ที่หลักยัญ รวบรวมฝูงนกเข้าไว้เสร็จแล้วเที่ยวกันขวักไขว่ไปมา กล่าวว่า เราควรจะได้สิ่งนี้ๆ.


ครั้งนั้นแล พระนางมัลลิกาเทวีทรงทราบเหตุนั้นก็เข้าเฝ้าพระราชากราบทูลถามว่า ข้าแต่มหาราชเจ้าพวกพราหมณ์พากันเที่ยวขวักไขว่ไปมา มีเรื่องอะไรหรือเพคะ? พระราชาตรัสว่าแน่ะนางผู้เจริญ เธอมัวแต่สุขสบาย จึงไม่รู้ว่าอสรพิษมันสัญจรอยู่ใกล้ๆหูของพวกเรา. พระนางทูลถามว่า ข้าแต่มหาราช เรื่องนั้นคืออะไรเพคะ?พระราชารับสั่งว่า เราฝันร้ายถึงปานนี้ พวกพราหมณ์พากันทำนายว่า อันตรายใน3 อย่าง ไม่อย่างใดอย่างหนึ่งก็จักปรากฏเพื่อบำบัดอันตรายเหล่านั้นต้องบูชายัญ จึงต้องสัญจรไปมาอยู่บ่อยๆพระนางมัลลิกากราบทูลถามว่า ข้าแต่มหาราชเจ้าก็ผู้ที่เป็นยอดพราหมณ์ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก ทูลกระหม่อมได้ทูลถามถึงการแก้ไขพระสุบินแล้วหรือเพคะ? ทรงรับสั่งถามว่า นางผู้เจริญพระผู้เป็นยอดพราหมณ์ในโลก พร้อมทั้งเทวโลกนั้น เป็นใครกันเล่า?พระนางกราบทูลว่า ทูลกระหม่อมไม่ทรงรู้จักมหาพราหมณ์ โคดมผู้ตถาคตหมดกิเลสบริสุทธิ์แล้ว เป็นสัพพัญญู เป็นบุคคลผู้เลิศในโลกพร้อมทั้งเทวโลกดอกหรือเพคะ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น คงทรงทราบเหตุในพระสุบินแน่นอนขอเชิญทูลกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินไปกราบทูล ถามเถิดเพคะ.พระราชาทรงรับสั่งว่า ดีละเทวี


แล้วเสด็จไปยังพระวิหาร ถวายบังคมพระบรมศาสดาแล้วประทับนั่งอยู่พระศาสดาทรงเปล่งพระสุรเสียงอัน ไพเราะ ตรัสถามว่า มหาบพิตรเหตุไรเล่าบพิตรจึงเสด็จมา ดุจมีราชกิจด่วน. พระราชากราบทูลว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อใกล้รุ่งหม่อมฉันเห็นมหาสุบิน 16 ข้อสะดุ้งกลัว บอกเล่าแก่พวกพราหมณ์ พวกพราหมณ์ทำนายว่า ข้าแต่มหาราชเจ้าพระสุบินร้ายแรงนัก เพื่อระงับสุบินเหล่านั้นต้องบูชายัญด้วยยัญญวัตถุอย่างละ 4 ครบทุกอย่าง แล้วพากันเตรียมบูชายัญฝูงสัตว์เป็นอันมากถูกมรณภัยคุกคาม ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์เป็นบุคคลผู้เลิศในโลกทั้งเทวโลก เญยยธรรมที่เข้าไปกำหนดอดีต อนาคตปัจจุบัน ที่ยังมาไม่ถึงซึ่งคัลลองในญาณมุขของพระองค์นั้นมิได้มีเลยข้าแต่พระผู้มี พระภาคเจ้าขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดทำนายผลแห่งสุบินของหม่อมฉันเหล่า นั้นเถิดพระเจ้าข้า. พระศาสดาตรัสว่า ขอถวายพระพร เป็นเช่นนั้นทีเดียวมหาบพิตรในโลกทั้งเทวโลก เว้นตถาคตเสียแล้ว ผู้อื่นที่จะได้ชื่อว่าสามารถรู้เหตุหรือผลของสุบินเหล่านี้ไม่มีเลย ตถาคตจักทำนายให้มหาบพิตรก็แต่ว่ามหาบพิตรจงตรัสบอกพระสุบิน ตามทำนองที่ทรงเห็นนั้นเถิดพระราชาทรงรับพระพุทธดำรัสว่า ดีละ พระพุทธเจ้าข้า เริ่มกราบทูลพระสุบินตามทำนองที่ทรงเห็นอย่างถี่ถ้วน โดยทรงวางหัวข้อไว้ดังนี้ว่า

"โคอุสุภราชทั้งหลาย ๑ ต้นไม้ทั้งหลาย ๑
แม่โคทั้งหลาย ๑ โคทั้งหลาย ๑ ม้า ๑ ถาดทอง ๑
สุนัขจิ้งจอก ๑ หม้อน้ำ ๑ สระโบกขรณี ๑
ข้าวไม่สุก ๑ แก่นจันทน์ ๑ น้ำเต้าจม ๑ ศิลาลอย ๑
เขียดขยอกงู ๑ หงส์ทองล้อมกา ๑ เสือกลัวแพะ ๑"

......... พระบรมศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสให้พระเจ้าปเสนทิโกศลเลิกบูชายัญ ด้วยพระพุทธดำรัสว่า เพราะพระสุบินเป็นปัจจัยภัยยังไม่มีแก่มหาบพิตรดอก มหาบพิตรจงสั่งให้เลิกยัญเสียเถิดพระราชทานชีวิตทานแก่มหาชน .........

สุบินนิมิตข้อที่ 1 : ภัยธรรมชาติ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นโคล่ำสัน 4 ตัว วิ่งมาจากทิศทั้ง 4มีลักษณะอาการเกรี้ยวกราด ประดุจจะชนกัน ด้วยความโกรธแค้นกันมานานพอโคทั้ง 4 วิ่งเข้ามาใกล้กันแล้ว กลับถอยห่างออกจากกันไป ไม่ชนกันเลยพระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้นจะเกิดภัยธรรมชาติขึ้น คือ ฟ้าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาลจะมีก้อนเมฆขนาดใหญ่ลอยมาจากทิศทั้ง 4เหมือนกับฟ้าฝนจะตกลงมาในพื้นปฐพีอย่างหนัก เมื่อก้อนเมฆทั้ง 4ลอยเข้ามาใกล้กันแล้ว ก็ลอยถอยห่างออกจากกันไป ไม่มีฝนตกลงมาในพื้นปฐพีเลย

สุบินนิมิตข้อที่ 2 : เยาวชนมั่วสุมเสพกาม
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นต้นไม้นานาชนิดยังไม่ใหญ่โตพอที่จะมีดอกมีผล แต่ต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอกและผลจนกิ่งก้านสาขาจะรอรับดอกผลนั้นไม่ไหว พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น กุมารีที่มีวัยยังไม่สมควรจะมีสามีแต่กุมารีนั้นอยากแต่งงานให้เป็นครอบครัว เพราะมีความกระสันใฝ่ฝันในราคะตัณหา ใจมีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีใน รูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ เป็นอย่างมาก มีความอยากในกามารมณ์แห่งความรักความใคร่จึงได้แต่งงาน กันเมื่ออายุยังวัยเด็ก ถูกต้องตามประเพณีนิยมบางคนมั่วสุมกัน ไม่มีความละอาย เยี่ยงสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมาก็หาวิธีฆ่าลูกในท้องของตัวเอง จึงเป็นบาปกรรมต่อไปในภายภาคหน้ายิ่งนักเด็กบางคน ยังมีพ่อแม่เลี้ยงดูอยู่บ้าง เด็กบางคนพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ไหวจึง ได้ปล่อยปละละเลยให้หาขอทานกินตามลำพัง เป็นเด็กเร่ร่อนจรจัดไม่มีพ่อ แม่ ไม่มีตระกูล ไม่มีการศึกษา ไม่มีที่พึ่งพาอาศัยในบ้านเรือนค่ำที่ไหนนอนที่ นั่น อดบ้าง อิ่มบ้าง น่าเวทนายิ่งนัก เหตุการณ์อย่างนี้จะมีในภายภาคหน้าโน้นใครได้ไปเกิดในยุคนั้น สมัยนั้นก็จะต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล

สุบินนิมิตข้อที่ 3 : พ่อแม่ต้องเอาใจลูก
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิต เห็นฝูงพ่อแม่โคทั้งหลายพากันดูดกินนมลูกของตัวเอง พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้นพ่อแม่ทั้งหลาย จะได้อาศัยกินหยาดเหงื่อแรงงานของลูกอาศัยข้าวปลาอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค ต่างๆ ที่ลูกแสวงหามาเลี้ยงดูพร้อมทั้งเงินทอง ก็ต้องแบ่งปันให้พ่อแม่ได้จับจ่ายใช้สอยในยุคนั้นสมัยนั้น พ่อแม่ก็ต้องเอาอกเอาใจลูกยิ่งนักต้องประจบประแจงปะเหลาะลูกอยู่เสมอ ถ้าพูดต่อลูกดีๆลูกก็แบ่งปันเงินทองให้ได้ใช้บ้าง ถ้าพ่อแม่พูดไม่ดีก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรจากลูกนี้เลย เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

สุบินนิมิตข้อที่ 4 : ผู้อ่อนประสพการณ์บริหารประเทศ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นฝูงคนทั้งหลายพากันจับลูกโคตัวเล็กๆเข้ามาเทียมแอกเพื่อ ลากล้อเกวียน เมื่อลากไปไม่ไหว ก็จะพากันเฆี่ยนตีพระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้นคนทั้งหลายจะพากันนิยมเอาเด็กที่จบปริญญามาใหม่ๆ ไปรับราชการแผ่นดินบริหารการพัฒนาประเทศชาติ บ้านเมือง อันเป็นงานที่หนักถึงจะมีความรู้อยู่ก็ตาม แต่เด็กนั้นยังขาดประสบการณ์ ขาดความสามารถขาดความรอบรู้ ขาดความรอบคอบ ในการบริหารเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมจึงเกิดความผิดพลาด ล่าช้า ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ขาดความรับผิดชอบขาดดุลการค้า ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้ถ่วงความเจริญของประเทศชาติทำให้คนดุด่าว่ากล่าวนานาประการ เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

สุบินนิมิตข้อที่ 5 : ความไม่เป็นธรรมในการตัดสินความ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นม้าตัวเดียว หัวเดียว มีสองปากกินหญ้าได้สองทาง กินเท่าไรก็ไม่มีความอิ่มพอ พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนผู้มีหน้าที่ตัดสินคดีความต่างๆจะใช้อุบายวิธีอันมีเล่ห์เหลี่ยม เพื่อเอาเงินจากคู่กรณีทั้งสองเอาทั้งฝ่ายโจทก์ เอาทั้งฝ่ายจำเลยเพื่อเป็นค่าจ้างรางวัลในการวินิจฉัยคดีความบ้าง เอาค่านั้นบ้างเอาค่านี้บ้าง ถ้าไม่ได้ตามความเรียกร้อง ก็จะไม่รับเรื่องที่มาร้องเรียนต้องการเท่าไรก็เรียกร้องตามใจชอบ ถ้าเรื่องเล็กๆ น้อยๆก็เรียกร้องเอาน้อย ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็จะเรียกร้องเอาเงินอย่างเต็มที่แล้วจึงจะมาวินิจฉัยคดี ตัดสินต่อไป เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดมีภายภาคหน้าทั่วโลก

สุบินนิมิตข้อที่ 6 : พระธรรมคำสอนถูกเหยียบย่ำ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นมีหมู่มนุษย์ถือถาดทองคำอันมีค่ามหาศาล ไปวางไว้สุนัขจิ้งจอกถ่ายอุจจาระถ่ายปัสสาวะใส่พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้นกลุ่มคนที่โง่เขลาปัญญาทราม จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ไปให้ลัทธิต่างๆเหยียบย่ำทำลาย แล้วถ่ายทอดลัทธิของเขาเอาคำสอนของเขาที่สกปรกโสโครกด้วยกิเลสตัณหา มากลบเกลื่อนในคำสอนของเราแล้วดัดแปลงแก้ไขคำสอนของเรา ให้เข้ากันกับลัทธิของเขา แล้วประกาศว่าคำสอนของเราตถาคต เป็นส่วนหนึ่งในลัทธิของเขาให้คนทั้งหลายมีความเข้าใจผิดว่า คำสอนของเราเข้ากันได้กับของเขาถือว่าเป็นอันเดียวกันลัทธิเหล่านั้นก็จะไม่ รู้คุณค่าของคำสอนของเราตถาคตแต่อย่างใดมนุษย์อย่างนี้ก็จะมีในเมื่อเรา ตถาคตนิพพานไปแล้ว และจะมีลัทธิต่างๆมาอวดอ้างว่าเป็นศาสนาเป็นจำนวนมาก

สุบินนิมิตข้อ ที่ 7 : ผู้มีใจต่ำแอบอ้างสถาบันกษัตริย์
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นชายคนหนึ่งเอาหนังสือมานั่งฟั่นให้เป็นเชือก อยู่บนม้านั่งแล้วมีสุนัขจิ้งจอกคอยกัดกินอยู่ เมื่อฟั่นเชือกเสร็จสุนัขจิ้งจอกก็กินหมดทันที พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนผู้มีจิตใจต่ำ ปัญญาทราม จะได้รับสมมุติยกย่องขึ้นเป็นผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ นั่งทำงานอยู่ในพระราชสำนักระดับสูงอาศัยอำนาจ พระบารมีของพระมหากษัตริย์ว่าราชการแผ่นดินแทนพระองค์อยู่เนืองนิตย์ โดยมีความโง่เขลาเบาปัญญาพูดจาขาดความสำรวม กล่าวเปิดเผยความลับต่างๆ ในพระราชสำนักให้หมู่ประชาชนได้รู้ คนลัทธิต่างๆที่ไม่มีความหวังดีต่อพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว ได้ยินเข้า จึงนำเอาไปตีแผ่โฆษณาให้คนอื่นคลายศรัทธา หมดความเคารพในวงศ์พระมหากษัตริย์และหมดความเชื่อถือในพระราชวงศ์ต่อไป เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้นคนที่ไม่มีความหวังดีต่อพระมหา กษัตริย์จะเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเอง

สุบินนิมิตข้อที่ 8 : ทำบุญเลือกหน้า
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสุบินนิมิตเห็นโอ่งน้ำใหญ่และโอ่งน้ำเล็กตั้งอยู่ใน ที่ แห่งเดียวกันแล้วมีทคนทั้งหลาย แย่งกันตักน้ำ เทใส่โอ่งน้ำใหญ่ จนล้นเหลือส่วนโอ่งน้ำเล็ก ไม่มีใครตักน้ำใส่เลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น จะมีคนทำบุญโดยเลือกหน้า พระองค์ที่มีอายุมากพรรษามาก มียศถาบรรดาศักดิ์ในตำแหน่งต่างๆจะมีคนให้ความสนใจจะพากันถวายเครื่องไทยทาน เป็นจำนวนมากล้วนแล้วแต่ของที่ดีๆ มีค่า มีราคา ข้าวปลาอาหาร ปิ่นโตเถาขนาดใหญ่ตั้งต่อหน้า จนเหลือเฟือ ส่วนพระเล็กเณรน้อยนั่งอยู่รอบข้างไม่มีใครคิดถวายอะไรเลย มีแต่งนั่งดูตาปริบๆ เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

สุบินนิมิตข้อที่ 9 : คอรัปชั่นในแผ่นดิน
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นสระน้ำขนาดใหญ่มีน้ำรอบนอกใส่สะอาดเยือกเย็น ส่วนน้ำในกลางสระขุ่นข้นเป็นโคลนตมแล้วมีสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย พากันแย่งชิงกินน้ำในสระที่ขุ่นข้นเป็นตมนั้นส่วนน้ำรอบนอกที่ใสสะอาดเยือก เย็น ไม่มีสัตว์ตัวใดอยากจะกินเลยพระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนจะมีความโลภความอยาก ไม่อิ่มพอในเงินทองมากขึ้น การงานที่สะอาด บริสุทธิ์ และสุจริตไม่อยากทำ ถือว่า เงินเดือนน้อย ร่ำรวยช้าไม่พอกับความโลภความอยากของตัวเอง จึงได้ลงสมัครตัวเข้ามาในสภาสันนิบาตเพื่อจะมีอำนาจในการบริหารงานและบริหาร เงินของแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ใช้อุบายวิธี อันมีเล่ห์เหลี่ยม ทุจริต คิดมิชอบ ในเงินของแผ่นดินมือใครยาว สาวได้สาวเอา จะได้เงินมาด้วยวิธีสกปรกอย่างไรจะไม่มีความละอายแก่ใจตัวเองเลย ขอให้ได้เงินก้อนโตมา ก็เป็นที่พอใจลักษณะนี้จะมีกันทั่วโลก มีทั่วทุกประเทศเขตแดน และจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นจะเกิดความยุ่งเหยิงในสภาสันนิบาตของประเทศนั้นๆ เพราะการแบ่งสันตำแหน่งในการดูดกินเงินภายในประเทศนั้น ไม่ลงตัวผู้นั้นจะได้กินน้อย ผู้นั้นจะได้กินมาก ผู้นั้นจะไม่ได้กินอะไรเลยสุดท้ายก็เกิดงัดข้อกันเอง เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

สุบินนิมิตข้อที่ 10 : สงสัยในมรรคผลนิพพาน
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นหม้อหุงข้าวหม้อเดียวมีความแตกต่างกันข้าวในหม้อซีกหนึ่ง สุก ซีกหนึ่งดิบๆ สุกๆ อีกซีกหนึ่งข้าวไม่สุกเลยพระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้นคนในโลกนี้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป กลุ่มหนึ่งจะมีความเชื่อว่าเราตถาคตเป็นที่พึ่งที่เคารพจริง พระธรรมคำสอนของเราตถาคตเป็นสวากขาตธรรมเมื่อนำไปปฏิบัติให้ถึงที่สุดแล้วจะ พ้นจากทุกข์ได้จริงเชื่อว่ามีมรรคผลนิพพานจริง นรกสวรรค์มีจริงกรรมดีกรรมชั่วให้ผลแก่บุคคลที่กระทำจริงตายแล้วเมื่อยังมี กิเลสตัณหาอยู่เชื่อว่าได้มาเกิดใหม่อีกกลุ่มหนึ่งยังไม่แน่ใจว่า มรรคผลนิพพานในยุคนี้ สมัยนี้ มีจริงหรือไม่เพราะพระพุทธศาสนาได้ล่วงเลยไปนาน พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามีความสมบูรณ์อยู่หรือไม่ พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ในยุคนี้มีจริงหรือไม่ มีแต่ความสงสัยลังเล ไม่แน่ใจอีกกลุ่มหนึ่งปฏิเสธว่า มรรคผลนิพพานไม่มีนรกสวรรค์ไม่มี ทำดีทำชั่วไม่ให้ผลในภายหน้าชาติหน้า ตายแล้วไม่ได้เกิดใหม่แต่อย่างใดในช่วงปลายพุทธศาสนาโน้น คนจะเกิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิดมากขึ้นๆดังนี้

สุบินนิมิตข้อที่ 11 : นำพระธรรมมาขายกิน
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นคนพวกหนึ่งเอาแก่นจันทร์แดงที่มีค่าราคาแพง ไปแลกกับนมเปรี้ยวหม้อเดียวซึ่งไม่สมค่าราคากันเลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนพวกหนึ่ง จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคตไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรา จะเขียนเป็นตำราเพื่อออกจำหน่าย ขายกินหารายได้เพื่อเลี้ยงชีวิต เอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ทำเป็นการแสดงแต่งกลอน เพื่อผลประโยชน์ในกัณฑ์เทศน์ แสดงธรรมเพื่อเห็นแก่ค่าจ้างรางวัลอันเป็นอามิส ไม่สมค่าราคากันเลย สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงปลายศาสนาของเราตถาคตโน้น

สุบินนิมิตข้อที่ 12 : คนดีถูกขัดขวางรังแก
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นน้ำเต้าแห้งเปล่ากลวงในตามธรรมดาแล้วจะลอยอยู่บนน้ำ แต่น้ำเต้าเปล่านั้นกลับดิ่งจมลงในน้ำนั้นเสีย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนดี มีความรู้ดี มีสติปัญญาดี มีความรอบรู้มีความฉลาด มีความสามารถ มีทั้งพระและฆราวาสจะไม่ได้รับความยกย่องเชิดชูในสังคมจะถูกขัดขวางจากกลุ่ม คนพาลสันดานชั่วอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นฆราวาสก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานในการบริหารแระเทศชาติบ้านเมืองคนมีความ รู้ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้ามาในสภาสันนิบาต หรือได้รับเลือกเข้ามาแล้วก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ จะมีกลุ่มทุจริตคิดมิชอบเพื่อหวังผลประโยชน์ต่างๆ เบียดสีให้ตกเก้าอี้ไปในสายตาของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ จะมองเห็นคนดีๆ ว่าเป็นตัวกาลกิณีของเขาไม่ยอมที่จะให้เข้าไปรู้เห็นในความทุจริตคิดมิชอบ ของตน คนดีๆจึงไม่มีในสังคมนี้เลย ถ้าเป็นนักบวชก็เป็นในลักษณะนี้เช่นกันท่านองค์ใดมีใจบริสุทธิ์ผุดผ่องในพระ ธรรมวินัยมีความรู้ดี ปฏิบัติชอบต่อมรรคผลนิพพานท่านเหล่านั้นจะไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากฟังธรรมจะมองเห็นว่าเป็นพระคร่ำครึล้าสมัยไม่เกิดศรัทธาไม่อยู่ในสาย ตาของเขาแต่อย่างใดเพราะใจไม่มีความเคารพเชื่อถือในท่านเหล่านั้นแม้แต่จะ แบ่งปันปัจจัยทั้งสี่ ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือ ก็ไม่เต็มใจถึงจะถวายให้ ก็นิดหน่อยพอเป็นพิธีเท่านั้นท่านเหล่านี้จึงมีชีวิตอยู่ด้วยความลำบากใครก็ ไม่อยากบวชเป็นพระในลักษณะนี้ ในที่สุด พระดีๆ มีคุณธรรมก็จะค่อยหมดไปๆ ในศาสนาของเราตถาคต เรื่องเหล่านี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

สุบินนิมิตข้อ ที่ 13 : คนชั่วเรืองอำนาจ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นก้อนศิลาแท่งทึบ ขนาดใหญ่เท่าเรือลอยอยู่บนผิวน้ำเหมือนกับเรือสำเภาเปล่า ตามธรรมดาแล้วก้อนศิลาย่อมจมอยู่ใต้น้ำ แต่ก้อนศิลานั้นกลับลอยอยู่บนผิวน้ำพระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนพาลสันดานชั่วคนทุศีล คนทุธรรม คนขี้โกง คนหัวประจบสอพลอ คนทุจริตคิดมิชอบคนไม่มีความละอาย จะได้เป็นที่ยกย่องเชิดชูในสังคม เป็นผู้มีบทบาท มีอำนาจมีชื่อเสียงเกียรติยศ มีพวกพ้องบริวารมากถ้าเป็นฆราวาสก็จะมีแต่ผู้เชิดหน้าชูตา ไปไหนมาไหนมีแต่คนเคารพยำเกรงมีฝูงชนให้การต้อนรับเอาใจ เรียกว่าเป็นกระจกบานใหญ่ให้แสงสะท้อนเงาของประเทศนั้นๆ สังคมของประเทศนั้นมีความเจริญหรือเสื่อมลงก็ให้ดูกระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ ในสภาจะเป็นสื่อบอกประตู้หน้าต่างของสังคมได้เป็นอย่างดีประเทศใดมีตัวแทนใน ลักษณะใด จะรู้ได้ว่าผู้ที่เลือกเขาเข้ามาก็เป็นลักษณะอย่างนั้น เขาจะเลือกเอาเกรดเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันถ้าเป็นนักบวช นักพรต ก็เป็นลักษณะนี้ศาสนาจะมีความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงก็ขึ้นอยู่กับบริษัททั้ง สี่ ลำพังพระอย่างเดียวจะโดดเด่นขึ้นในท่ามกลางของสังคมนั้นไม่ได้ พระที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังก็เพราะญาติโยมนำไปออกข่าวโฆษณา ว่าองค์นั้นมีความขลังอย่างนั้นองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้ มีอภินิหาร ไปทางไหนก็นำไปออกข่าวองค์ไหนปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ องค์ไหนเป็นพระอริยเจ้าฆราวาสจะเป็นผู้คาดการณ์ให้เอง ในยุคสมัยนั้นพระอรหันต์จะเกิดจากลูกศิษย์ยกให้เอง ศิษย์แต่ละครู ศิษย์แต่ละสำนักจะผลิตจะกำหนดรูปแบบอาจารย์ของตัวเอง ให้เป็นพระอรหันต์ขึ้นเรื่องข้อวัตรปฏิบัติของอาจารย์ มีความเคร่งครัดอย่างไรก็นำไปโฆษณาอย่างหยดย้อยนี่เองก้อนศิลาแท่งทึงจึงได้ ลอยอยู่บนผิวน้ำมีความโดดเด่นเห็นได้อย่างชัดเจน จึงเป็นธุรกิจในคราบผ้ากาสาวพัสตร์บังหน้า เอาศาสนามาแอบอ้างหากินเมื่อช่วงปลายศาสนาโน้น คนจะหมดความเลื่อมใสในศาสนาของเราตถาคตคนที่มีศรัทธาเบาบางก็จะค่อยจืดจางไป เพราะเห็นความชั่วร้ายในพระยุคนั้นๆผู้ที่มีปัญญาดี มีความมั่นคง มีเหตุมีผลเขาจะแสวงหาพระที่เป็นพระได้อย่างถูกต้อง เมื่อปลายศาสนาโน้นเรื่องอย่างนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน

สุบินนิมิตข้อที่ 14 : นักบวชหลงลาภยศ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นนางเขียดน้อยไล่กินงูเห่าตัวมหึมาเมื่อไล่ทันก็กระโดดคาบ กลืนกินทันที พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น นักบวชองค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมีคำพูดเป็นวาทศิลป์ เคยแผ่พังพานในการแสดงธรรม มีบทบาทในสังคมมีประชาชนให้ความเคารพเชื่อถือเป็นอย่างมาก ได้รับลาภ ยศ สรรเสริญจนลืมตัวไม่มีสติ ไม่มีปัญญา รักษาใจไม่มีความฉลาด จึงขาดในการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย และใจ ปล่อยให้ไปสัมผัสในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะจึงทำให้ใจเกิดอัฏฐารมณ์ คือ อารมณ์แห่งความรักความใคร่ในกามคุณมีความกำหนัดย้อมใจ นางเขียดน้อย (สตรี) ได้มองเห็นช่องโหว่จึงได้วางแผนหว่านล้อมด้วยมารยานานาประการมีคำหวานอันหยด ย้อยเหมือนน้ำอ้อยน้ำตาล ชโลมหัวใจงูเห่าจนหน้ามือตาลายหายใจไม่เต็มปอดอีนางเขียดน้อยได้จังหวะก็ กระโดดคาบกลืนกินทันทีเรียบร้อยไป

สุบินนิมิตข้อที่ 15 : แวดล้อมด้วยพระทุศีล
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นหงส์สีทองทั้งหลาย ไปห้อมล้อมอีกาอีกาไปไหน ฝูงหงส์สีทองทั้งหลาย ก็ห้อมล้อมเป็นบริวารพระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น พระเณรผู้บวชใหม่ใจยังมีความบริสุทธิ์อยู่ในศีลในธรรม จะห้อมล้อมพระที่ทุศีลทุธรรมจะยกให้เป็นครูอาจารย์เพื่อเคารพกราบไหว้อย่าง เหลือเฟือ อีกาฉลาดมีเล่ห์เหลี่ยมในการหาอาหารฉันใด พระทุศีลทุธรรมเหล่านี้ก็ฉลาดมีเล่ห์เหลี่ยมในการหาลาภสักการะได้ฉันนั้นและ แบ่งลาภสักการะให้แก่หงส์เล็กหงส์ใหญ่ได้อย่างทั่วถึง ฝูงหงส์ทั้งหลายจึงให้ความสำคัญในอีกาเป็นอย่างมาก ในยุคต่อไปช่วงปลายศาสนาโน้นการเปลี่ยนไปในสังคมของสมณะก็จะเป็นอย่างนี้พระ ที่ทุศีลทุธรรมจะเพิ่มมากขึ้น พระเณรที่ขาดการศึกษา จะไม่รู้ธรรมวินัยไม่เข้าใจว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อะไรผิดศีล อะไรผิดธรรมจะไม่รู้หน้าที่ของตน เพียงบวชกันตามประเพณีเท่านั้น เหตุการณ์อย่างนี้ก็จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

สุบินนิมิตข้อที่ 16 : โค่นล้มราชาธิปไตย
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสุบินนิมิตเห็นฝูงแพะทั้งหลายพากันไล่จับเสือมาเป็น อาหารพากันเคี้ยวกินอยู่กรอบๆ พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่าอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น ประชาชนทั้งหลายไม่พอใจการปกครองแบบราชาธิปไตยจึงพากันจับกลุ่มเพื่อเรียก ร้องต่อต้านการปกครองของพระราชาให้ได้มาซึ่งการปกครองแบบประชาธิปไตย ให้พระราชลดบทบาท ลดอำนาจลงอยู่ในการปกครองภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน เมื่อพระราชาไม่ยินยอมก็พากันปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ ให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนถ้าพระราชชาองค์ใดขัดขืน ก็ลบล้างพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของประเทศนั้นๆ พร้อมด้วยพระราชวงศ์ให้หมดไปจากประเทศชาตินั้นเสียมีบางประเทศที่พระราช ยินยอมตามคำขอร้องของประชาชนยอมลงจากอำนาจเดิมคือราชาธิปไตย ประชาราษฎรในบ้านนั้นเมืองนั้นก็จะพากันให้ความเคารพเชื่อถือในองค์พระมหา กษัตริย์พากันยกย่องเชิดชูในพระราชวงศ์นั้นจนสุดชีวิต เพื่อให้เป็นร่มโพธิร่มไทรเป็นสมมุติเทพ กราบไหว้เทิดทูน ให้เป็นศูนย์รวมน้ำใจของประเทศนั้นๆตลอดไปสินกาลนาน เหตุการณ์อย่างนี้ ก็จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น